ก็เพิ่งรู้ ว่าผู้หญิงคือของเสพติด
ถ้าไม่มีแล้วมันหงุดหงิด ผมติดผู้หญิง
*ความอ่อนหวาน มันหาจากใครไม่ได้จริงๆ
มันเหมือนผู้หญิงมีบางสิ่ง ที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ต้องลงแดง
** ถ้าไม่มีผู้หญิง คงต้องกลิ้งลงไปกองอย่างกับหมา
คล้ายๆพิษสุรา แต่โรคนั้นคงรักษาได้ซักทาง
โรคนี้มันไม่หาย และดูคล้ายจะยืดเยื้อ คือโรคพิษสตรีเรื้อรัง
บางทีหัวเราะเสียงดังๆ บางทีก็ร้องนอนครวญคราง
เอาสักทางได้ไหม
ในบางครั้ง ฉันยังเคยคิดเลิกเด็ดขาด
อยากเจอผู้หญิงแล้วขยาด แต่เจอผู้หญิงเดินเกลื่อนกลาด
ก็ยังมอง
ซ้ำ * **
วิเคราะห์เพลง
ชื้อเพลง ‘พิษสตรีเรื้อรัง’ นั้นเป็นambiguityเพราะว่าคำนี้นั้นรวมๆแล้วไม่มีความหมายที่สมเหตุสมผล มันกำกวม ไม่ตรงไปตรงมาแบบทื่อๆเพื่อรอให้ผู้อ่านเข้าไปค้นหาความหมายแต่ทว่าถ้าเราแตกคำออกมาจะเข้าใจความหมาย พิษ-สตรี-เรื้อ-รัง ซึ่งมีความหมายว่า ผู้หญิงนั้นเป็นพิษ และเรื้อรัง ซึ่งชื้อเป็นเนื้อหาของกลอนโดยรวม
Mood/Tone ของเพลงนี้แต่งต้องการสื่อออกมาในแนวน่ารัก ตลกแบบกวนๆ โดยใช้เสียงนักร้องที่เสียงมึนๆเมาๆให้เหมื่อนกับการเป็นโรคหรื่อการติดยาเสพติด เพื่อให้เข้าถึงเนื้อเพลงและชื่อเพลง “พิษสตรีเรื้อรัง”เป็นการเล่นคำ เหมือนกันผู้หญิงเป็นของเสพติด เสพมากและติดต่อกันนานทำให้เกิดอาการเรื้อรัง
ผู้แต่งสื่อโดย กล่าวถึงอารมณ์ของวัยรุ่นชายที่ติดผู้หญิง คิดว่าผู้หญิงเป็นของเสพติด ขาดไม่ได้เพราะมีความอ่อนหวานที่ไม่เหมือนใคร ถ้าขาดไปแล้วต้องมีอาการเหมือนขาดสารเสพติด แล้วพูดติดตลกว่า ถ้าไม่มีผู้หญิง คงต้องลงไปกลิ้งไปกองอย่างกับหมา และสื่อว่าโรคพิษสุราสามารถรักษาหายได้แต่โรคพิษสตรีเรื้องรัง ที่ทำอย่างไรก็ไม่หาย อาการแปรปรวน ท้ายเพลงก็ปิดว่าบางครั้งก็เคยคิดเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้ซักที
เพลงนี้เป็นเพลงที่แปลกแหวกแนว เป็นการสื่อถึงความรักในอีกแง่มุมนึงที่ต่างออกไป เหมือนกับความรักเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง ทำให้ผู้ชายต้องติดอยู่ด้วยโรคนี้
มีการใช้อุปมาอุปมัย (simile/metaphor) สัมผัสสระ เช่น ขาด-ขยาด, หงิด-ติด เป็นต้นเพื่อที่จะวาดรูปในจิตของผู้ฟังเสมื่อนวาดรูป เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ นอกจากนี้ยังมีการซ้ำท่อนฮุก เพื่อเน้นย้ำถึงโรคนี้ จังหวะเพลงออกแนวน่ารักสดใส ฟังแล้วรู้สึกสบายๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น